|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
dust
Moderator
Hero Member
    
ออฟไลน์
กระทู้: 536

|
 |
« ตอบ #77 เมื่อ: มกราคม 01, 2017, 09:12:15 pm » |
|
จริงๆแล้วยังมีบอร์ดแดคอื่นๆที่ได้ทดลองมาอีกเยอะหลายๆเบอร์ แต่รื้อทิ้งไปซะมากแล้วเหมือนกัน ผมเชื่อว่าถ้าใครได้อ่านที่ผมเขียนเล่ามาก็คงมีคำถามในใจว่า แดคMultibit VS DeltaSigma อย่างไหนดีกว่ากัน? อันนี้ตอบยาก ขอตอบด้วยความเห็นส่นตัวจริงๆว่า สำหรับผมแล้ว ผมไม่แคร์เรื่องจำนวนบิทที่เพิ่มขึ้นในทุกๆห้าปีของDeltaSigma แดคสักเท่าไหร่ ผมให้ความสำคัญกับประเด็นที่แดคจะทำงานได้THDต่ำที่สุดเสียมากกว่า ดังนั้นต่อให้บิทเพิ่มขึ้นเรื่อย หรือความถี่แซมปลิ้งสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ในทางปฏิบัติ ผมคิดว่าเอนจิเนียร์ผู้ออกแบบ เค้าก็บอกเป็นนัยยะอยู่แล้วว่า ที่สเป็คสูงสุดของแดคเบอร์ใหม่ๆนั้น THD มันไม่ได้ต่ำสุดสักหน่อย ส่วนใหญ่แล้วก้ต้องเลือกที่จะ config ในค่ากลางๆถึงจะไ้เสียงดีน่าฟัง สำหรับจำนวนบิท 16bitนั้น ซึ่งเป็นมาตรฐานเก่าแก่แต่เดิมนั้น มือโปรฯเค้าบอกว่า มันเพียงพอแล้วสำหรับ Hi-Fi แต่ทุกวันนี้เรากำลังเข้าสู่ยุค High Resolution มันละเอียดขึ้นมากกว่าเดิมตั้งแต่กระบวนการบันทึกเสียงตลอดจนการเพลย์แบ็ค มันละเอียดขึ้นจริงๆ แต่บางทีผมก็อดสงสัยไม่ได้อย่าง แดค TDA1541A S2(double crown) ถึงแม้จะเป็น16bit แต่เสียงมันละเอียดมากมายจริงๆ หรือแดคอย่าง PCM63P ก็ให้เสียงละเอียดพอสำหรับหูผมก็แล้วกัน ถ้าถามว่าแดคเบอร์อะไรดีที่สุด ผมไม่รู้หรอก เพราะผมไม่ได้ทดลองแดคทุกเบอร์ที่มีในตลาด แต่ถ้าถามว่าผมอยากได้แดคเบอร์อะไรมากที่สุด ผมมีคำตอบ ผมอยากทำแดค PCM63P(L,K) made in JAPAN สัก4ตัว ต่อแชนแนล ทำแบบ non-oversampling แล้วก็ลืมแดคเบอร์อื่นๆไปให้หมด แต่ทุกวันนี้แดคที่ทำในญี่ปุ่นนั้นหาแทบไม่มีแล้ว พวกดีไอวายในฮ๋องกงกวาดซะเรียบ แดคเบอร์อื่นๆที่เจ๋งมากก็อย่าง TDA1541A S2(Taiwan) เสียงต่างออกไปจาก TDA1541A S1(Netherland) พอสมควร 2มงกุฏจะให้เสียงที่ฟังดูทันสมัยกว่า แต่เนียนมากมาย ถ้าใครชอบแนวฟิลลิปส์เดิมๆ หนึ่งมงกุฏก็ดีมากแล้ว นอกจากนี้ก็มี AD1865N-K เป็นเวอร์ชั่นสเตอริโอ แล้วก็มีที่ดีกว่าอย่าง AD1862 เป็นเวอร์ชั่นโมโน ใช่แล้ว ถ้าเป็นโมโนแล้ว crosstalk ระหว่างแชนแนลก็ต้องน้อยกว่าเป็นธรรมดา แต่เรื่องเสียงไม่ต่างกัน อันนี้ไม่ได้ทดลองเอง เค้าว่าเสียงไม่ต่างกันเลย แม้กระทั่งแดครุ่นหลังๆมาอย่าง AD1853 ก็ให้เสียงคล้ายๆกันแบบนี้แหละ เรื่องการทดลองแดคที่นำกลับมาเล่ารื้อฟื้นความทรงจำก็คงจบลงเพียงเท่านี้ ไว้โอกาสหน้ามีอะไรใหม่ๆมานำเสนอ ก็คอยติดตามอ่านกันต่อไปครับ 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 01, 2017, 09:14:37 pm โดย dust »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
wan2012
Permanent Member
Hero Member
  
ออฟไลน์
กระทู้: 1486
|
 |
« ตอบ #78 เมื่อ: มกราคม 02, 2017, 12:26:55 am » |
|
ขอบคุณมากๆครับน้าที่นำความรู้+ประสบการณ์มาบอกต่อมาแชร์ต่อ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Pongsathon
Permanent Member
Hero Member
  
ออฟไลน์
กระทู้: 2946

ใจรัก แต่ยังไม่ได้ลงมือทำ
|
 |
« ตอบ #80 เมื่อ: มกราคม 18, 2017, 04:45:30 pm » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
dust
Moderator
Hero Member
    
ออฟไลน์
กระทู้: 536

|
 |
« ตอบ #89 เมื่อ: มกราคม 20, 2017, 09:01:22 pm » |
|
อยากได้แบบไฮบริดมากกว่าครับ ใชไฟสูงสักนิด น้าช่วยแนะนำหน่อย ว่าวงจรไหนดี จะได้ทดลองออกแบบวงจร  ถ้าอยากทำเองจริงๆน่ะ ผมแนะนำว่า ลองดูวงจรที่เอาท์พุท ออกเป็นแบบโซลิดสเตทแบบพช-พูลจะดีกว่า เพราะจะเพิ่มเรื่องการลดน๊อยส์ลงไปได้อีก แต่ถ้าจะเอาแบบง่ายๆ ก็เอาลายวงจรAikido ที่ผมทำไว้ไปลองทำดูก่อนแล้วกัน ถึงจะใช้แค่ไฟบวก แต่วงจรAikido มันมีน๊อยส์ที่ค่อนข้างต่ำอยู่แล้ว แต่คงต้องใช้เวลาไปหาลายวงจรก่อน เรพาะเปลี่ยนคอมพ์แล้ว ต้องไปค้นดูในแบ็คอัพฮาร์ดดิสก์ ตอนที่ทำแอมป์Aikidoนี่ ผมได้แรงบันดาลใจมาจากDAC-Amp ATH5050 ที่ร้านม.ค.พารากอนน่ะ ได้ฟังแล้วประทับใจน่าดู ถึงแม้จะไม่ถูกใจไปทุกอย่างแต่มันเจ๋งมากเลย ไม่รู้ว่าตอนนี้แดคแอมป์ตัวนี้ยังใช้เป็นเดโมที่สาขาพารากอนอยู่รึเปล่า เป็นไฮบริด อนพุทเป็นหลอดJJ E88CC ไปออก mosfet Toshiba ผมเคยหาวงจรไว้นานแล้ว คงจะทำหายไปแล้วล่ะ ถ้าชอบแบบอลังการลองไปค้นหาวงจรในกูเกิ้ลดูเองแล้วกัน มีรูปให้ดูตามลิ้งค์ http://www.audiomania.ru/content/art-4600.htmlแต่เป็นภาษารัสเซีย แดคชิปเป็น BurrBrown DSD1793 ในความเห็นส่วนตัว ผมว่า BB มันให้ความเป็นดนตรีน่าฟังกว่า Sabre DAC ก็หูใครหูมันแล้วกัน ตอนนี้BBเอง ก็ออก DSD1796มาแล้วด้วย ดูเหมือนจะได้เปรียบES9018 ตรงที่เป็น native DSD
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|