Old normal style

[dust]

FXaudio_1 by St Lim, on Flickr

กลับมาอีกครั้งกับการเอาของเก่ามาเล่นใหม่ ปรีแอมป์ FX Audio Tube01 ต่อไปเข้าบัฟเฟอร์แบบ JLH จากเว็บไซต์ของ ร็อด เอลเลียต
ฟังอยู่นาน หลังจากที่ฟังอยู่นานสองอาทิตย์ ผมว่าเป้นคู่ที่ลงตัว เสียงดี มีทั้งความเป้นไฮไฟและมิสสิคคัลที่ดีมากๆ อีกทั้งยังเปลี่ยนหลอดได้เท่าที่อยากจะลองไปเรื่อยๆ

พูดถึงการโมฯปรี  FX Audio Tube01 ผมไม่ได้ทำอะไรข้างในกับปรีหลอดตัวนี้เลย ไม่เคยแม้แต่จะแกะออกมาดู บอกตรงๆว่าขี้เกียจทำ
จะทำก็เพียง ทำภาคจ่ายไฟให้ใหม่เท่านั้นเอง LT1086 กับหม้อแปลงEI 12V/2A ผมคิดว่าแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันน่ะครับว่า ที่โมฯบนบอร์ดนั้นเค้าทำอะไรกันบ้าง เปลี่ยนซีคัปปลิ้ง เปลี่ยนซีซัพพลาย แล้วจะทำอะไรอีก
พื้นที่พีซีบีก็มีนิดเดียว จะเปลี่ยนของใหม่ ก็อาจจะแค่ทำให้เสียงเปลี่ยนไป เพราะคุณจะหาพาร์ทขั้นเทพตัวใหญ่ใส่ลงไปไม่ได้หรอก
อย่าเสียเวลามาก หรือไม่น่ะ ถ้าชอบกันจริงๆ ก็ทำบอร์ดใหม่ไปเลย ใส่โวลุ่มตัวเป้งๆ ใส่อาร์คาร์บอนใหญ่ๆ เสียงอย่างอิ่มๆเลยครัช

ส่วนภาคบัฟเฟอร์ ผมแกะออกมาเป่าฝุ่น สายตาไม่ใคร่ดี เห็นเพียงเบอร์ D1267(P) แต่จำได้ว่าเป็น Matsushita แน่นอน ส่วนเบอร์ PNP เบอร์อะไรหว่า มองไม่เห็น น่าจะเป็น B942(Q) รึเปล่า น่าเสียดายที่ทุกวันนี้เบอร์นี้หมดไปจากตลาดบ้านหม้อนานแล้ว ผมว่าเป็นทรานซิสเตอร์ที่เสียงดีมากๆๆๆ ยุคทองของโซลิดสเตทได้ผ่านพ้นไปแล้วจริงๆครับ

[dust]

เมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อนฝูงเก่าแก่มาเยี่ยม เอาหลอดโนเนมรวมๆกันหนึ่งกล่องมาให้ลองเล่นดูครับ ก็คัดเท่าที่พอเล่นได้ออกมาประมาณนี้
ซึ่งสามารถที่จะเสียบกับปรีแอมป์ FX Audio Tube01 ได้

FXaudio_2 by St Lim, on Flickr

ยังมีอีกหลายหลอดที่ไม่ได้เอามาถ่ายรูป เพราะเป็นหลอดเดี่ยวๆหาคู่ไม่ได้แล้ว แต่แค่นี้ก็ฟังกันเมื่อยหูแล้ว

[dust]

ผมรีวิวหลอดไว้คร่าวตามข้างล่างนี้ครับ

เริ่มจากหลอดแถวหน้าก่อน หมายเลข2และ3 เป็นหลอด GE 5654, 5654W ไม่รู้ว่าต่างกันอย่างไร นอกจากความสูงของหลอด 5654W ที่สูงกว่าประมาณครึ่งเซนติเมตร ขนาดเพลทด้านในก็ใกล้เคียงกัน เสียงก็ไม่ต่างกัน คือ เสียงโดยภาพรวมสะอาดมาก มีฮาร์โมนิคส์แบบหลอดอยู่บ้าง แต่เสียงเก็บตัวเร็วกว่าหลอดอื่นๆ ปลายเสียงแหลมจัดจ้าน รายละเอียดเยอะ การจัดวางซาวน์สเตจถือว่าโอเค เป็นหลอดที่เมื่อได้ฟังแล้วก็ไม่รู้ว่าจะชอบหรือไม่ชอบอย่างไรดี

หลอดหมายเลข4,5 เป็นหลอด RCA grey plate และหลอด RCA black plate ตามลำดับ หลอดที่ผมใช้ฟังเป็นประจำก็คือ RCA grey plate เสียงโดยรวมต้องบอกว่า compromise ในทุกๆแง่มุมของความเป็นไฮไฟและมิวสิคคัล เป็นหลอดที่ฟังได้นานๆ ส่วนหลอด black plate จะให้ความรู้สึกดนตรีที่ลุ่มลึกกว่า เหมือนจะเพิ่มรายละเอียดมากขึ้น ซาวน์สเตจที่กว้างออกไปอีก ทั้งสองเวอร์ชั่นนี้สมควรแก่การหามาเล่นอย่างยิ่ง

หลอดหมายเลข 6 Raytheon เป็นหลอด black plate ก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่ายี่ห้อนี้จะทำเพลทแบบอื่นบ้างมั้ย เป็นเสียงมาตรฐานแบบ Raytheon จริงๆ เท่าที่เคยทดลองเล่นหลอดยี่ห้อนี้มาหลายๆเบอร์ ผมว่ามีมาตรฐานในการผลิตสูงมาก จะหลอดเบอร์อะไรก็ยังเป็นเสียงแนวเดิมๆ เสียงกลางเรียบๆติดดาร์คหน่อย ความเป็นไฮไฟก็ไม่มีอะไรให้ติมากนัก

หลอดถัดไป หมายเลข7 ผมคาดว่าน่าจะเป็น Sylvania nickle plate เสียงโดยรวมใสๆเรียบๆ ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ หลอดUSAที่มีเพลทแบบนี้หลายๆเบอร์ผมได้ทดลองฟัง เสียงก็จะออกมาแนวใสๆเรียบๆอย่างนี้เช่นกัน คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรที่เป็นซิลเวอร์ นอกจากจะดูเป็นสีเงินๆเท่านั้นเอง

ถัดไปหลอดหมายเลข 8,9,10 เป็นหลอดยี่ห้อ Sylvania grey plate, black plate และ blake plate+gold pin หลอดเบอร์ 8 grey plate เสียงไฮไฟ สไตล์ซิลวาเนีย เสียงไม่หวานแบบRCA จะออกเรียบๆว่า อิมเมจเสียงกลางไม่ใหญ่มาก เสียงร้องถอยเข้าไปในสเตจ หมายเลข9 black plate จะรู้สึกถึงฮาร์โมนิคส์ที่อบอวลกว่า ไปที่หลอดเวอร์ชั่นขาทอง เสียงโดยรวมไม่ต่างกันเลย จะมีพิเศษก็ตรงที่พื้นเสียงแบคกราวน์สงัดกว่าอย่างชัดเจน เพราะเป็นเวอร์ชั่นโลว์น๊อยส์

ข้ามไปหมายเลข 13 RCA 6AU6A, 7543 เป็นหลอดที่ได้รับความนิยมมานาน แต่ผมเพิ่งจะเคยได้ลองเล่นนี่แหละ โดยเบอร์7543 จะเป็นเวอร์ชั่น industrial grade ที่น๊อยส์ต่ำกว่า แต่เสียงเหมือนกัน คือเมื่อเสียบในปรีแอมป์ FX audio tube 01 แล้ว จะอัพความเป็นไฮไฟขึ้นอีก เสียงโอ่อ่ากว่าเดิม อิมเมจเสียงก็ดูจะใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย อาจจะมีจุดที่ฟังแล้วน่ารำคาญเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ RCA 5654W คือ หลอด 6AU6A, 7543 จะมีย่านเสียงแหลมที่คมจัดกว่าอย่างชัดเจน แล้วก็อีกเรื่องนึงที่ไม่ควรมองข้าม กระแสที่ฟิลาเมน์ จะเป็น 0.3A จะมากกว่า6AK5, 5654 อยู่พอสมควร

ต่อไปก็หลอด GE 6AU6A เป็นหลอด black plate สีดำด้านๆ เกนเยอะดี เสียงค่อนข้างจะต่างจาก RCA, Sylvania  พอสมควร เท่าที่ฟังดูคล้ายๆกับ 6AK6 มากกว่า

หลอดหมายเลข 15,16 เป็นหลอด Sylvania 6AU6WA, 6AU6WB ตามลำดับ เสียงไฮไฟแบบซิลเวเนีย ซาน์สเตจกว้าง เสียงมีรายละเอียดดี ปลายเสียงแหลมจะคมๆคล้ายกับ RCA ทั้งสองเวอร์ชั่นนี้ เสียงไม่ต่างกันเลย

หลอดหมายเลข17 RCA 6BH6 เป็นหลอดแบบ black plate เป็นหลอดที่นิยมใช้ในภาคจูนเนอร์ของรีซีฟเวอร์แอมป์หลอดสมัยก่อน สเป็คโดยรวม คล้ายมากๆกับ 6AU6 จะเว้นก็เพียงแต่ฟิลาเมนท์ที่กินกระแสเพียง 0.15A เสียงก็คล้ายกันมากๆกับ RCA 6AU6 เป็นหลอดที่ดีครับ แต่ฟังโดยรวมแล้ว เหมือนเสียงจะนุ่มกว่าเล็กน้อย

ถัดมา หมายเลข18 GE 6BH6 grey plate เสียงกลางแบบGE คือหนานุ่ม ส่วนปลายเสียงแหลม อย่างกะหลอดJAN คือเสียงจัดจ้านพอสมควร แต่ถ้าได้แมทช์กับแดคที่มีเอาท์พุทออปแอมป์เสียงหนาๆ ก็ฟังแล้วลงตัวมากๆเช่นกัน

หลอดต่อไปหมายเลข 19 Sylvania 6BH6 black plate จริงๆแล้วสีของเพลทมันออกก้ำกึ่งกับสีเทา เรื่องเสียงก็คล้ายกันมากกับ 6AU6WA, 6AU6WB  ไม่รู้จะว่าอย่างไรดี ถ้าใครชอบซิลเวเนียก็หามาฟังกันดู

หลอดหมายเลข 20 GE 6CB6 เป็นหลอดที่มี่ค่า gm สูงขึ้นมากว่าหลอดก่อนหน้านี้ทั้งหมด เป็นหลอดsmoked เพลทเทา  เสียงออกดาร์คบ้างพอสมควร แต่เสียงไม่หนา ให้ความเป็นดนตรีร่วมสมัยได้ดี

หลอดหมายเลข 21 Toshiba 6BZ6 คล้ายกับหมายเลข 20 ฮาร์โมนิคส์น้อยกว่าอย่างชัดเจน แต่เสียงก็ฟังดูสะอาดกว่า ไม่รู้จะบอกว่ามันเด่นหรือด้อยอย่างไรดี กับการฟังเพลงทั่วๆไป ผมว่ามันก็โอเคอยู่

หลอดต่อไป 22 Sylvania 6CB6 เป็นหลอด smoked คล้ายๆGE เสียงต่างกันพอสมควร หลอดเบอร์นี้ของซิลเวเนีย ย่านบนเสียงเปิดมากๆรายละเอียดเยอะ เสียงแหลมออกจัดพอสมควร ย่านเสียงกลางไม่เด่นเลย เบสโอเค อย่างนี้ฟังเพลงแนวไหนดีล่ะ?

หลอดหมายเลข 23 Raytheon 6AH6 เป็นหลอดเพนโธดที่ใหญ่กว่าเพื่อนในกลุ่มนี้ทั้งหมด อัตราการกินกระแสของฟิลาเมนท์ที่ 0.4A เมื่อเสียบในปรี FX Audio Tube01 แล้วก็อาจจะมีฮัม เสียงโดยรวมเรียบตามสไตล์ของยี่ห้อนี้ แต่ซาวน์สเตจใหญ่ อิมเมจเสียงใหญ่ รายละเอียดก็ดี แต่ด้วยความที่ฟิลาเมนท์ต้องการกระแสมากขึ้น อาจจะไม่เหมาะกับปรีอันนี้

หมายเลข 24 Tungsol 6AH6 เป็นหลอดที่ผมชอบมาก ลองใส่ในปรี  FX Audio Tube01 เสียงออกนุ่มๆ แล้วก็เงียบสนิทๆมากๆ ไม่ฮัมเหมือน23 แต่ที่ผมชอบหลอดเบอร์นี้มากเพราะ ไปทำเป็น SE headphone amp แล้วเสียงมีความเป็นไฮไฟโอ่อ่าน่าฟังมาก ต่อเป็นไตรโอด โหลดเอาท์พุทควรจะมีค่าอย่างน้อย 7K ขึ้นไป

กลับมาที่หลอดหมายเลข 11, 12 GE & Tungsol 6BA6, 5749 ตามลำดับ เป็นหลอดที่จริงๆไม่น่าเอามาเล่นสักเท่าไหร่ เพราะว่าเป็นหลอด remote cutoff pentode ซึ่งจะมีค่า Mu ที่แปรผันไปตามการไบแอส Vg1 มีแนวโน้มที่หลอดจะทำงานไม่เสถียรในวงจรออโต้ไบแอสทั่วไป แต่เมื่อมีหลอดแล้วก็ลองเสียบฟังกันดู หลอด GE เป็นเพลทสีดำเงาแบบเดียวกับ 6AQ5 ยอดนิยม เสียงออกหวานๆนุ่มๆ เกนค่อนข้างน้อยกว่าหลอดในกลุ่มทั้งหมด ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องเกน ก็เป็นหลอดที่ฟังได้ แต่ดูเหมือนว่าหลอดแบบนี้อาจจะต้องเบิร์นอินนานๆสักหน่อยกว่าเสียงจะเข้าที่ ถัดมา Tungsol เสียงใหญ่หนานุ่ม เด่นมากๆกับเพลงร้อง แต่น่าเสียดายตรงที่ ผมหาคู่แมทช์เกนไม่ได้เลย มีความแตกต่างของเกนในจำนวนห้าหลอดที่มีอยู่นั้น อาจจะต่างกันได้มากตั้งแต่ 10% - 20% เป็นหลอดที่เกือจะชอบ เพราะฟังเพลงร้องดีมากๆ

note ลืมเอาหลอด Sylvania 6BA6, 5749มาใส่ไว้ด้วย  เสียงคล้ายๆกับ 6AU6WA, WB ของซิลเวเนียเอง เพียงแต่เกนจะน้อยกว่า และมีแนวโน้มว่าเกนระหว่างหลอดจะต่างกันมากๆด้วย ถ้าไม่มีอะไรเล่นจริงๆ ผมว่ามันก็โอเคที่จะฟังหลอดเบอร์นี้ครับ

หลอดสุดท้าย หมายเลข1 Belvu 6AK6 เป็นหลอดที่ผมเคยพูดถึงเมื่อนานหลายปีมาแล้ว หลอดเบอร์ 6AK6 ไม่ว่าจะยี่ห้ออะไร ก็สามารถนำมาเสียบในปรี FX Audio Tube01 เพราะเป็นหลอดที่ฟิลาเมนท์กินกระแสเพียง 0.15A แต่ก็มีค่า gm ที่ต่ำกว่าหลอดอื่นๆในกลุ่มนี้ ขอพูดสั้นๆสำหรับหลอด Belvu 6AK6 เป็นหลอดที่เสียงดี ให้ฟีลลิ่งคล้ายกับ 6V6 จะเรียกว่าเป็น mini 6V6 ก็ได้ ผมชอบหลอดเบอร์นี้ตรงที่พื้นเสียง และช่องว่างระหว่างชิ้นดนตรีสงัดมาก แต่ปลายเสียงแหลมก็ออกไปทางคมจัดจ้านอยู่บ้าง ผมยกให้เป็นหลอดดีที่สุดในกลุ่มสำหรับ ดนตรีแจ๊ซ

ทั้งหมดนี้เป็นการทดลองฟังหนุกๆ เพื่อเป็นไอเดียในการเล่นเท่านั้น อย่าจริงจังเกินไปครับ

ซิสเต็มที่ใช้ฟังเพลงทดสอบ
๊USB DAC AK4495 YJ modifiedแล้ว
Pre FX Audio Tube01 + Linear PS(LT1086)
Buffer stage "JLH class A" as seen on Rod Elliot website (SS device Matsushita 2SD1267P, 2SB942Q)
Cables all Belden
Headphone Audiotechnica ATH-m40

[dust]

PCF803_1 by St Lim, on Flickr

ปีที่แล้วยังทำแอมป์หลอดอยู่ ทำเสร็จแล้วก็วางเอาไว้เฉยๆ ก็เอามาลองฟังดู
หลอดเบอร์ PCF803 ดูเหมือนว่าจะไม่ใคร่มีโรงงานไหนผลิต ที่เห็นนี่ก็ Telefunken
เป็นหลอดเล็กๆที่ดูน่ารักดี แน่นอนว่ากระแสก็ไม่ได้เยอะอะไร

ในรูปนี่ถ่ายไว้เมื่อปีที่แล้ว วงจรมีการโมฯบ้างนิดหน่อย

[dust]

PCF803_2 by St Lim, on Flickr

ผมเลิกสนใจพวกหลอดทีวี ที่เป็นไตรโอด+เพนโธดไปแล้ว เนื่องจากว่าภาคไตรโอดมีค่า Mu สูงมาก ส่วนใหญ่ก็ราวๆ 70-100
ซึ่งพอใช้งานไปเรื่อยๆก็จะรู้สึกว่าบางทีมันพาน๊อยส์เข้ามาเยอะ

ส่วนหลอดเบอร์ PCF803 Tiode Mu ~20 ผมว่ามันกำลังน่าใช้
แต่อาจจะด้อยตรงที่ภาคเพนโธดนั้น มีขนาดค่อนข้างเล็ก เสียงก็อาจจะไม่ได้เต็มที่อย่างพวก E/PCL82/84/85/86
ก็มีดีมีด้อยต่างกันไป

[dust]

PCF803_Hpa_v1.1 by St Lim, on Flickr

วงจรเวอร์ชั่นที่ปรับแต่งครั้งสุดท้าย ก็ประมาณนี้
กระแสที่หลอดภาคเพนโธดประมาณ 10mA เท่านั้น ส่วนกำลังวัตต์ น่าจะอยู่ราวๆ 20-30mW
ไม่ต้องตกใจมันเพียงพอที่จะขับหูฟังอย่างแน่นอน

เสียงเป็นอย่างไร?
อาจจะต่างออกไปจากหลอด ทลฟก.เบอร์ยอดนิยมที่เคยฟังกันบ้างพอสมควร
ภาคไตรโอด ผมเล็งๆดูเพลทแล้วออกจะค้ลายๆกับเบอร์ E/PCC84 ของยี่ห้อ ทลฟก.เอง
เสียงโดยรวมฟังดูแล้วออกจะเหมาะกับดนตรีร่วมสมัยสักหน่อย โดยที่ยังมีกลิ่นอายของความเป็น ทลฟก.อยู่พอสมควร
ซาวน์สเตจกว้างพอประมาณ แยกชิ้นดนตรีได้ดี โดยรวมก็น่าพอใจอยู่
ลืมบอกไปว่าซีที่ใช้คัปปลิ้งเป็น Wima MKP10 0.47uF/400V ก็พอใช้ได้กับแนวเสียง ทลฟก.
แต่ในภาพรวมแล้ว ไม่อลังการเท่า E/PCL82/84/85/86

อีกเรื่องนึงที่เกือบจะลืมบอกไปว่า หลอดเบอร์ PCF803 นั้นมีสเป็คที่ใกล้เคียงกับ E/PCF801
แต่นำเอามาเสียบแทนกันไม่ได้เพราะ E/PCF801นั้นมีคาโธดที่เชื่อมติดกันนั่นเอง 

note หม้อแปลงเอาท์พุท ผมเปลี่ยนไปใช้ Lundahl LL1660 / 4.5:1

[METAL Audiophile]

วงจรแรกน่าสนใจครับ

[yowza]

ชอบ 6ak6 เหมียนป๋มเลย หลอดไรก๋ไม่รุ กินไฟก็น้อย ขนาดก็น้อย กำลังก็น้อย แต่เสียงมีเสน่ห์จิงๆ

[yowza]

เพิ่งสอย teac headphoneamp ha-501มือแปดมาตัวนึง เป็นตัวที่อยากได้มากมากๆๆๆ อ่านรีวิวมาเยอะ ได้ม่าในอาการ วอลุ่มด้านขวาติดๆดับๆ นี่ขนาดใช้ alps blue นะเนี่ย เสียงที่ได้ 5555ผิดหวังอย่างแรงคับ ถ้าไม่นับเรื่องเสียง กำลังขับด้อยมากๆผมฟังปกติเปิดเกือบๆสุดในขณะที่ตัวอื่นๆเปิดแค่เที่ยงขี้หูสะเทือนละ

[yowza]

เทียบกะตัวล่าง sudgen headphones amp clone สั่งน้านิกร ทำ กำลีงขับดีก่าเยอะเลย ไว้ เปิดฝาจะถ่ายไส้ให้ชม อุปกรณ์ เดิมๆยังไม่อัพอะไร  ตอนนี้ เปิด ยูทูปฟังผ่าน bt ไปเข้า fx audio muse01 ใช้teacเป็นปรี ที่ใช้ fx muse เพราะ รับ bt จ่ายออกเป็น optical กะ coax ป๋มขุด แดค เก่าๆ มาเล่น สนุกไปอีก ประหยัดตังด้วย หุๆๆ

[dust]

เพิ่งสอย teac headphoneamp ha-501มือแปดมาตัวนึง เป็นตัวที่อยากได้มากมากๆๆๆ อ่านรีวิวมาเยอะ ได้ม่าในอาการ วอลุ่มด้านขวาติดๆดับๆ นี่ขนาดใช้ alps blue นะเนี่ย เสียงที่ได้ 5555ผิดหวังอย่างแรงคับ ถ้าไม่นับเรื่องเสียง กำลังขับด้อยมากๆผมฟังปกติเปิดเกือบๆสุดในขณะที่ตัวอื่นๆเปิดแค่เที่ยงขี้หูสะเทือนละ

ถ้าเปลี่ยนโวลุ่มตัวใหม่แล้ว ยังมีปัญหาอยู่ ก็อาจจะลองดูตำแหน่งอื่นบ้างน่ะ
เช่น ซิกนัลรีเลย์ ก็อาจจะเป็นสาเหตุได้เหมือนกัน

ส่วนเรื่องกำลังของแอมป์ ผมว่าเค้าตั้งใจทำมาไม่ให้มีกำลังเยอะเกินไป
อาจจะเพื่อความปลอดภัยของผู้ฟังเอง และอีกประการที่สำคัญคือ ยิ่งกำลังวัตต์น้อย เมื่อวัดค่า THD แล้วมันจะดูดีมาก

[dust]

เทียบกะตัวล่าง sudgen headphones amp clone สั่งน้านิกร ทำ กำลีงขับดีก่าเยอะเลย ไว้ เปิดฝาจะถ่ายไส้ให้ชม อุปกรณ์ เดิมๆยังไม่อัพอะไร  ตอนนี้ เปิด ยูทูปฟังผ่าน bt ไปเข้า fx audio muse01 ใช้teacเป็นปรี ที่ใช้ fx muse เพราะ รับ bt จ่ายออกเป็น optical กะ coax ป๋มขุด แดค เก่าๆ มาเล่น สนุกไปอีก ประหยัดตังด้วย หุๆๆ

เพิ่งจะซื้อ FX audio Museo1มาเหมือนกัน ในแง่ของการใช้งานเป็น digital interface ผมว่าดีน่าพอใจ
ส่วนแดคในตัว ก็พอใช้ได้ เสียงออกหนานุ่มไปนิสนึง
แต่ถ้ามาดูราคาที่ซื้อแล้ว อย่าบ่นเลย คุ้มค่าตัวอย่างแรง

[dust]

6AU6_6AU6_Hpa1 by St Lim, on Flickr

ผมทำแอมป์ 6AK5 drive 6AK6 แต่ก็ยังไม่ได้ใส่ 6AK6 แบบว่าอยากจะลองฟังหลอดเบอร์อื่นดูก่อน เลยตั้งไบแอสกระแสไว้เพียง 10mA
สำหรับหลอดเบอร์ที่มีค่า plate dissipation ที่ต่ำกว่า ผมได้ทดลองเบอร์ 6AU6WA drive 6AU6WB เป็นยี่ห้อ Sylvania ทั้งหมด เสียงดีมากๆเลย

แม้จะใช้ซีคัปปลิ้งที่หลายๆคนเห็นต้องบอกว่ายี้สุดๆ ซีตัวสีฟ้านี่เป็นยี่ห้อ Philips แบบ MKP น่ะครับ
ผมเพิ่งจะเอามาใส่เมื่อไม่นานมานี้หลังจากที่เก็บใส่ไว้ในกล่องนานจนลืมไปเลยว่าเคยเล่นซีตัวนี้

เท่าที่ผมได้ดูการโมฯปรี FX Audio Tube 01ในยูทิวบ์ เอาแบบพื้นๆที่สุด พอเห็นซีแบบโนเนมตัวสีฟ้าๆก็ต้องเปลี่ยนกันก่อนเลย
พอเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นแล้ว บางทีอาจจะต้องเปลี่ยนกลับมาเป็นซีตัวสีฟ้าอย่างเดิม

ซีตัวสีฟ้าในปรี Tube 01 จะเป้นยี่ห้อ BC ซึ่งมันก็เป็นยี่ห้อที่เทคโอเวอร์โรงงานมาจากPhilips อีกต่อนึง
เท่าที่ผมมีซีสีฟ้า เก่าสุดจะเป็นยี่ห้อ Philips->PILKOR->BC->Vishay มีการเปลี่ยนยี่ห้อไปตามวันเวลา แต่เสียงโดยรวมๆผมว่าก็คล้ายๆกัน
คือเสียงออกจะไปทางเรียบๆ แล้วเราก็จะไปจูนตรงจุดอื่นเพื่อเพิ่มเสียงหวาน เสียงใสอะไรก็ว่ากันไปครับ

ส่วนวงจรแอมป์ในรูปข้างบนนี้ ผมขี้เกียจวาดจริงๆ ไว้ใครอยากได้รูปวงจรกรุณา request มาแล้วกัน ไว้จะวาดให้

[yowza]

 

[N-K-F-H]

6AU6_6AU6_Hpa1 by St Lim, on Flickr

ผมทำแอมป์ 6AK5 drive 6AK6 แต่ก็ยังไม่ได้ใส่ 6AK6 แบบว่าอยากจะลองฟังหลอดเบอร์อื่นดูก่อน เลยตั้งไบแอสกระแสไว้เพียง 10mA
สำหรับหลอดเบอร์ที่มีค่า plate dissipation ที่ต่ำกว่า ผมได้ทดลองเบอร์ 6AU6WA drive 6AU6WB เป็นยี่ห้อ Sylvania ทั้งหมด เสียงดีมากๆเลย

แม้จะใช้ซีคัปปลิ้งที่หลายๆคนเห็นต้องบอกว่ายี้สุดๆ ซีตัวสีฟ้านี่เป็นยี่ห้อ Philips แบบ MKP น่ะครับ
ผมเพิ่งจะเอามาใส่เมื่อไม่นานมานี้หลังจากที่เก็บใส่ไว้ในกล่องนานจนลืมไปเลยว่าเคยเล่นซีตัวนี้

เท่าที่ผมได้ดูการโมฯปรี FX Audio Tube 01ในยูทิวบ์ เอาแบบพื้นๆที่สุด พอเห็นซีแบบโนเนมตัวสีฟ้าๆก็ต้องเปลี่ยนกันก่อนเลย
พอเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นแล้ว บางทีอาจจะต้องเปลี่ยนกลับมาเป็นซีตัวสีฟ้าอย่างเดิม

ซีตัวสีฟ้าในปรี Tube 01 จะเป้นยี่ห้อ BC ซึ่งมันก็เป็นยี่ห้อที่เทคโอเวอร์โรงงานมาจากPhilips อีกต่อนึง
เท่าที่ผมมีซีสีฟ้า เก่าสุดจะเป็นยี่ห้อ Philips->PILKOR->BC->Vishay มีการเปลี่ยนยี่ห้อไปตามวันเวลา แต่เสียงโดยรวมๆผมว่าก็คล้ายๆกัน
คือเสียงออกจะไปทางเรียบๆ แล้วเราก็จะไปจูนตรงจุดอื่นเพื่อเพิ่มเสียงหวาน เสียงใสอะไรก็ว่ากันไปครับ

ส่วนวงจรแอมป์ในรูปข้างบนนี้ ผมขี้เกียจวาดจริงๆ ไว้ใครอยากได้รูปวงจรกรุณา request มาแล้วกัน ไว้จะวาดให้

ตัวนี้ต้องใช้ OPT  กี่เคครับ

[dust]

6AU6_6AU6_Hpa1 by St Lim, on Flickr

ผมทำแอมป์ 6AK5 drive 6AK6 แต่ก็ยังไม่ได้ใส่ 6AK6 แบบว่าอยากจะลองฟังหลอดเบอร์อื่นดูก่อน เลยตั้งไบแอสกระแสไว้เพียง 10mA
สำหรับหลอดเบอร์ที่มีค่า plate dissipation ที่ต่ำกว่า ผมได้ทดลองเบอร์ 6AU6WA drive 6AU6WB เป็นยี่ห้อ Sylvania ทั้งหมด เสียงดีมากๆเลย

แม้จะใช้ซีคัปปลิ้งที่หลายๆคนเห็นต้องบอกว่ายี้สุดๆ ซีตัวสีฟ้านี่เป็นยี่ห้อ Philips แบบ MKP น่ะครับ
ผมเพิ่งจะเอามาใส่เมื่อไม่นานมานี้หลังจากที่เก็บใส่ไว้ในกล่องนานจนลืมไปเลยว่าเคยเล่นซีตัวนี้

เท่าที่ผมได้ดูการโมฯปรี FX Audio Tube 01ในยูทิวบ์ เอาแบบพื้นๆที่สุด พอเห็นซีแบบโนเนมตัวสีฟ้าๆก็ต้องเปลี่ยนกันก่อนเลย
พอเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นแล้ว บางทีอาจจะต้องเปลี่ยนกลับมาเป็นซีตัวสีฟ้าอย่างเดิม

ซีตัวสีฟ้าในปรี Tube 01 จะเป้นยี่ห้อ BC ซึ่งมันก็เป็นยี่ห้อที่เทคโอเวอร์โรงงานมาจากPhilips อีกต่อนึง
เท่าที่ผมมีซีสีฟ้า เก่าสุดจะเป็นยี่ห้อ Philips->PILKOR->BC->Vishay มีการเปลี่ยนยี่ห้อไปตามวันเวลา แต่เสียงโดยรวมๆผมว่าก็คล้ายๆกัน
คือเสียงออกจะไปทางเรียบๆ แล้วเราก็จะไปจูนตรงจุดอื่นเพื่อเพิ่มเสียงหวาน เสียงใสอะไรก็ว่ากันไปครับ

ส่วนวงจรแอมป์ในรูปข้างบนนี้ ผมขี้เกียจวาดจริงๆ ไว้ใครอยากได้รูปวงจรกรุณา request มาแล้วกัน ไว้จะวาดให้

ตัวนี้ต้องใช้ OPT  กี่เคครับ

ค่าอิมพีแดนซ์ ของเอาท์พุท ประมาณ7.5K
ใช้ได้กับหลอดเล็กกลุ่มนี้ทั้งหมด เท่าที่พอจะนึกออก 6AU6, 6AK6, 6AH6
อย่าลืมต่อเป็นไตรโอดด้วย

[dust]

PCL82_2021_1 by St Lim, on Flickr

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา พอจะมีเวลาว่าง เลยไปค้นบอร์ดเก่าๆที่ทำเอาไว้
เจอบอร์ด PCL82 นึกว่าโยนทิ้งไปแล้ว นำกลับมาปรับปรุงใหม่นิดหน่อย เปลี่ยนอาร์ เอาอาร์คาร์บอนฟิล์มของRS ออกไป เพราะขามันเป็นสนิม
ถึงแม้จะขัดทำความสะอาดแล้ว บางทีมันบัดกรีแล้วติดบ้างไม่ติดบ้าง น่ารำคาญมาก ใช้อาร์คาร์บอนที่ขาดูสวยๆก็โอเคใช้ได้ดี ไม่รู้ว่ายี่ห้ออะไร เค้าให้มา
เปลี่ยนซีคัปปลิ้ง เอาซีธรรมดาอย่าง ERO Mkp1846 0.22uF/1000Vมาใส่ดู

เสียงฟังดูแล้วไม่ซ้ำซากจำเจแบบสไตล์ออดิโอไฟล์เดิมๆที่เคยฟัง
เสียงโดยรวมฟังแล้วกลางๆ มีรายละเอียดที่ดีมาก ลืมบอกไปว่าผมใช้หลอด Philips ครับ
เอาหลอด Sylvania ของเพื่อนมาเสียบก็ดี เสียงจะออกไปทางสะอาดแล้วก็ปลายแหลมจัดจ้านกว่า

แต่ที่สำคัญ ผมกลับมาคิดใหม่ว่าจริงๆแล้ว แอมป์หลอด สามารถฟัเพลงคลาสสิคได้ดีมากๆ
ผมลองต่อฟังกับ Beyer DT770 ซึ่งเป้นหูฟังที่ใครหลายๆคนอาจจะบอกว่า เรียบๆจืดๆว่ะ
แต่เมื่อได้จับคู่กับแอมป์หลอดที่เหมาะๆ เสียงน่าฟังกำลังดี ถ่ายทอดความเป็นหลอดได้ดีมากๆ สมกับที่DT770เป็นหูฟังสตูดิโอยืนหนึ่งตลอดกาล

และที่สำคัญที่สุดคือ การที่ทั้งแอมป์หลอดและหูฟังสามารถถ่ายทอดความละเอียดอ่อนของดนตรีคลาสสิคออกมาได้ดีมากๆ
เมื่อปีที่แล้ว ผมได้สรุปแบบโง่ๆไปว่า
ถ้าฟังเพลงร้องVocal ผมเลือกใช้แอมป์หลอด
แต่ถ้าเป็นดนตรีคลาสสิค ผมจะเลือกใช้แอมป์โซลิดสเตท
เป็นการสรุปฟันธงที่ดูจะตื้นเขินเกินไปหน่อย ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดจริงๆ

ตั้งแต่ล็อคดาวน์โควิดปีที่แล้วมาจนถึงตอนนี้ รอบตัวผมมีแต่แอมป์หลอด
ผมได้ทดลองทำแอมป์พุชพูล12AU7, ซิงเกิ้ลเอนด์C3m และอื่นๆอีกหลายเบอร์จำไม่ได้
ทั้งหมดสามารถเล่นได้ดีกับดนตรีคลาสสิค
ผมคงต้องค่อยๆกลับไปทบทวนว่า ต้นปีที่แล้วผมทำอะไรผิดพลาดไป

[yowza]

เห็นน้าเอาของเก่าๆมาป๋อมเลยขุดมาบ้าง สีขาวแอมป์ครูเลยคับ cmoy สัง gb htg เอามาลงกล่องขำๆ ตัวแดงใช้ lm386 ใส่ pcbไข่ปลาแกะวงจรจาก หนังสือ ทำไปมััััาวๆดันดังแถมไม่ฮัมอีกใข้ ภาคจ่ายไฟ cสองตัว splitไฟเป็น +0- ทำมัั่วไปตามประสาเด็กน้อยเมื่อยี่สิบปีก่อนปัจจุบันเมีย1ลูก2 ฝีมือยังเด็กน้อยเหมือนเดิม

[yowza]

ถาคจ่ายไฟใช้ง่ายๆคับ เอาadapter เสียบฟังได้เลย

[yowza]

Im386ใช้ไฟ+-4.5v เลยต้องผ่านic 7809 แล้วค่อย split ไฟ ทำง่ายๆเรื่อยเปื่อย คับ ยี่สิบปีละ ยังใช้ได้อยู่ อ้อ c output สีน้ำตาลของ ROE เยอรมัน เสียงดีนะ ตอนนี้น noeยังมีขายตอนนี้หมดยังไม่รุ

[yowza]

มารดำมารขาว teac UD/HA-501
Dacกับhp amp ป๋มน่ะ แฟนพันธุ์แท้ teac เลยมีทั้ง ipod dock dac dap hp amp ลำโพง เครื่องอัดเสียง ชอบจังแบรนด์นี้  อ้อ ถ้ามี dac ud-501ไม่ต้องซื้อ hp amp ก็ได้คับ เสียงต่สงกันไม่เเท่าไหร่ เพราะ dac ก็มีช่อง หูฟังเหมือนกัน

[yowza]

ลืมรูป ..ยังไม่ได้แงะ volumn มาล้างคอนแทคเลย ฟังๆไปก่อนหุๆ

[yowza]

ปกติ ป๋มจะไม่ค่อยใช้แอป์เพราะขี้เกียจต่อ ป๋มใช้ power speaker ตัวนี้น้องไข่หมา swan x3 เป็น studio monitor ไว้ฟัง near field เสียงกลางชัดร้องเด่น ที่เหลือปานกลาง ตัวดีสุดทีาเคยใช้ก็ kef x300 เจ้าของเก่าขอซื้อคืนไปแระ รายนั้น digitalจ๋า ตั้งแต่inputยันoutpitเลย ทุกวันนี้ยังคิดถึงอยู่เลย ตู้ล่าง technic 4นิ่ว fullrange แท้ๆจากญี่ปุ่นตู้ bass reflex เอาไว้ฟังกะหลอดวัตต์ต่ำๆ

[yowza]

น้อง teachic

[dust]

เห็นน้าเอาของเก่าๆมาป๋อมเลยขุดมาบ้าง สีขาวแอมป์ครูเลยคับ cmoy สัง gb htg เอามาลงกล่องขำๆ ตัวแดงใช้ lm386 ใส่ pcbไข่ปลาแกะวงจรจาก หนังสือ ทำไปมััััาวๆดันดังแถมไม่ฮัมอีกใข้ ภาคจ่ายไฟ cสองตัว splitไฟเป็น +0- ทำมัั่วไปตามประสาเด็กน้อยเมื่อยี่สิบปีก่อนปัจจุบันเมีย1ลูก2 ฝีมือยังเด็กน้อยเหมือนเดิม

ดูแล้วได้ฟีลลิ่งของการดีไอวายดีครับ
ดีไอวายไว้ใช้เอง ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ก็นับว่าเป็นความสุขเล็กๆในชีวิตคนเรา

สำหรับผมการดีไอวาย เป็นเพียงเรื่อง "เล่น" ไม่มีจริงจัง บางทีทำไปแล้วก็ลืม
หลังจากที่ได้ทำแอมป์หลอดสมใจอยากไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน  มันก็ควรจะจบไปตั้งนานแล้ว
แต่ทุกวันนี้ก็ยังกลับมา ดีไอวายเล่นๆอีก แต่ความจริงจังไม่มีแล้ว

[dust]

TypicalHpa2021_2 by St Lim, on Flickr

หลอดเพาเวอร์ใหญ่ๆ ทำแอมป์หูฟังดีไหม?

หลอดนี้ก็ 6p3se = 5881 = 6L6GC? อาจจะไม่ใช่หลอดใหญ่มากนัก แต่กับการเป็นแอมป์หูฟังก็ใหญ่ล่ะ
แอมป์ตัวนี้ ทดลองทำบนบอร์ดที่ดีไซน์เพื่ออะไรซักอย่างก็ลืมไปแล้ว เพราะถูกโมฯมาหลายรอบสุดท้ายก็ลอง 6p3se
ไดรเวอร์ 6n2p-eb เป็นหลอดราคาถูกที่ดีไม่น่าเชื่อ เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังว่ามันดีอย่างไร?

ประเด็นแรก หลอดใหญ่ ไม่มีใช่สิ่งจำเป็นในการขับหูฟังไดนามิคทั่วๆไปเลย ขอย้ำว่าไม่จำเป็น
เพราะเมื่อฟังเพลง หลอดอาจจะอยู่ใกล้ ตัวผู้ฟัง หรือห้องฟังอาจจะมีขนาดเล็ก ถ้าหลอดใหญ่มาก มันจะเกิดความร้อนที่เสียเปล่าและน่ารำคาญ
ผมคิดว่า ควรเลือกหลอดที่มีกระแสฟิลาเมนท์โดยรวมๆไม่เกิน 1 amp ถือว่าโอเค
ถ้าหลอดใหญ่กว่านี้ คุณอาจจะต้องมีห้องขนาดใหญ่ แอมป์หลอดใหญ่ๆขับหูฟังพลาน่าร์ หรืออิเลคโตรสเตติค อะไรแบบนั้นจะโอเค

ประเด็นที่สอง หลอด 6n2p-eb เป็นหลอดที่เทียบเท่า 12AX7 เวอร์ชั่นรัสเซีย ที่ใช้ไฟจุดไส้หลอด 6.3V อย่างเดียว
เป็นหลอดที่ผมเชื่อว่า วิศวกรผู้ออกแบบหลอด มีความตั้งใจอะไรบางอย่างกับหลอดนี้
อย่างแรกโครงสร้างหลอดเป็นแบบรัสเซียเอง
ข้อต่อมา อย่างที่ทราบกันดีว่าหลายๆคนไม่ชอบหลอดเบอร์นี้ เพราะเสียงอ้วนหนา และมีเสียงปลายแหลมที่ค่อนข้างทู่
ตรงนี้แหละที่น่าจะเป็นความตั้งใจของผู้ออกแบบหลอดเบอร์นี้เลย เพราะอะไร?

เพราะหลอดรัสเซีย มากมายหลายเบอร์มีลักษณะร่วมกันอย่างนึง นั่นคือ อาการล้นของ 3rd harmonics ในย่านเสียงแหลม
พบอาการนี้ได้ทั่วไป ตั้งแต่ 6p14p(6BQ5), 6p1p, GU50 และอื่นๆอีกมากมาย
เมื่อไม่นานมานี้ผมได้ทดลองหลอดเบอร์ 4p1l บอกได้เลยว่า ย่านเวียงแหลมเลวร้ายที่สุด 3rd H เยอะมากสุดๆ
การที่หลอด 6n2p-eb มีเสียงแหลมทู่ๆ อาจจะเพื่อช่วยลดอาการ ล้นของเสียงแหลมที่หลอดเพาเวอร์นั่นเอง

[dust]

แล้วแอมป์นี้ เสียงเป็นอย่างไร?

โดยภาพรวมถือว่าลงตัวโดยไม่ต้องจูนอะไรเลย ผมอยากจะบอกว่าเสียงมันพอดีแล้ว
ข้อดีของหลอดใหญ่ๆ ก็มีอยู่คือ สามารถถ่ายทอดเสียงออกมาได้แบบไม่เค้น ไม่ต้องพยายามมาก เสียงดีแบบง่ายๆเลย
ซาวน์สเตจใหญ่ อิมเมจใหญ่ มีความเป็นสามมิติที่ชัดเจนมาก เสียงแหลมไม่ล้น นี่เพราะข้อดีของ 6n2p-eb

ผมได้ทดลองเสียบหลอดอย่าง 6DJ8/ECC88 เสียงแหลมจะขึ้นเยอะพอสมควร
แต่กับหลอด6n2p-ebโอเคลงตัวมากๆ

ไฟB+ ประมาณ 230-240VDC Ik = 28mA ถือว่าเป็นไบแอสแบบซอฟท์ๆสำหรับการใช้งานเป้นแอมป์หูฟัง
แต่ก็ยังเกรงอยู่ว่า ถ้าเข้าหน้าร้อน ก็ยังจะเป็นแอมป์ที่ร้อนอยู่ดี

วันนี้ก็เอามาลงไว้ให้ดูเพื่อเป็นไอเดียในการดีไอวาย ผมคงไม่ได้ใช้งานหลอด6p3se จริงจังแต่อย่างใด เพียงแค่ทดลองดูครับ

[dust]

myHPA2020_807_2 by St Lim, on Flickr

myHPA2020_807_3 by St Lim, on Flickr

เพิ่งค้นรูปเจอว่าช่วงกลางปีที่แล้ว ได้ทดลองหลอดเบอร์ 807, 5933 ไปแล้ว
เป็นหลอดที่สเป็คใกล้เคียง 6L6 ก็ถือว่าใช้ทำแอมป์หูฟังได้แน่นอน

จำได้คร่าวๆว่า RCA 807 เสียงจะโปร่งๆ รายละเอียดเยอะมากๆๆๆ
ส่วน Sylvania 5933 เสียงกลางหนานุ่มฟังเพลงร้องได้แจ่มสุดๆ
อาจจะหายากสักหน่อยกับหลอดเบอร์ 5933 ส่วนใหญ่จะมาในสภาพ used ที่ดูไม่ดีสักเท่าไหร่
ส่วนหลอดนี้มาจากอีเบย์เมื่อนานมากแล้ว สภาพดีมากกถ้าใครมีหลอดเบอร์นี้อยู่ลองทำดู ผมว่าเสียงดีน่าเล่น

[yowza]

สุดยอดครับน้า เอาเบอร์ใหญ่ๆ มาทำแอมป์ด้วย ชักสงสัย น้าเอา 2a3  300b มาทำแอมป์หูฟังบ้างไหมคับ

[dust]

สุดยอดครับน้า เอาเบอร์ใหญ่ๆ มาทำแอมป์ด้วย ชักสงสัย น้าเอา 2a3  300b มาทำแอมป์หูฟังบ้างไหมคับ

เคยทดลองเอาแอมป์ซิงเกิ้ลเอนด์2A3 มาต่อขับหูฟัง K701 เสียงดีมากๆ
ไม่ได้ยินเสียงฮัมเลยด้วย แม้จะจุดไส้หลอดด้วยไฟเอซี นั่นเพราะ K701 มันขับยาก
ส่วนหลอด300B ผมเฉยๆไม่ได้มีความสนใจอะไรเป็นพิเศษ

บางทีเรื่องหลอดเบอร์นั้น เบอร์โน้น ดีที่สุด เป็นอะไรที่ผมได้ยินได้ฟังหมู่นักดีไอวายพูดกันมานานมากแล้ว
ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของ preconception ที่ส่งต่อๆกันมา แล้วคลาดเคลื่อนไปเรื่อยๆ
สมมติว่านายเอ อาจจะเคยได้ฟังหลอด 300B ที่ดีที่สุดในแอมป์ซึ่งใช้เอาท์พุททรานส์ฟอร์เมอร์เพอร์มัลลอยขั้นเทพ
ในขณะที่คุณบี มีแอมป์ซิงเกิ้ลเอนด์300B แต่ใช้เอาท์พุทจีนลูกนิดเดียวเท่าอุ้งเท้าสุนัข ถ้าเป็นอย่างนี้ สองคนนี้ไม่มีวันคุยกันได้รู้เรื่อง

สำหรับผม ง่ายๆเลย หลอดที่ดีที่สุดในโลกคือ? "ไม่มีเลย" หรือ "ดีทุกหลอด" เลือกเอาข้อใดข้อหนึ่ง เพราะมันเหมือนกัน
หลังจากที่ผ่านการดีไอวายแบบไร้สาระมานาน
ทุกวันนี้ผมสนใจเพียงแค่ว่า ถ้ามีหลอดอะไรสักเบอร์ ยี่ห้ออะไรก็ได้ อยู่ตรงข้างหน้า ผมจะทำอย่างไรให้มันออกมาดีที่สุด

คุณมีหลอดอะไรอยู่ที่บ้าน วันนี้ได้ใช้มันแล้วรึยัง สามารถเค้นศักยภาพของมันออกมาได้จนเป็นที่พอใจแล้วหรือ?
ถ้ายังไม่ได้ทำ....ก็จงทำ